Tuesday 3 June 2014

สัมภาษณ์พิเศษ: เลขานุการบริหารกลุ่มต่อต้านเผด็จการทหารไทย จักรภพ เพ็ญแข


นับตั้งแต่การทำรัฐประหารไทยวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 กองทัพได้ใช้ธีการบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามโดยการปราบปรามอย่างรุนแรง

แกนนำและนักกิกรรมเรียกร้องประชาธิปไตยจำนวนมากถูกกองทัพไทยจับกุม ข่มขู่ว่าจะได้รับชะตากรรมที่เลวร้ายต่างๆนานาจากการกระทำก่อนปล่อยตัว หลายคนถูกจองจำอยู่ในบ้านพักโดยปริยาย

อย่างไรก็ตาม มีกลุ่มนักกิจกรรมขนาดเล็กได้รวมตัวกันนอกประเทศไทย และในขั้นต้นถูกมองว่าเป็น "กลุ่มคนไทยต่อต้าน" คณะเผด็จการทหาร

หนึ่งในบุคลลสำคัญที่ปรากฎตัวในกลุ่มต่อต้านนี้คืออดีตรัฐมนตรี นายจักรภพ เพ็ญแข ผู้ที่ไม่เห็นด้วยซึ่งได้ลี้ภัยทางการเมืองตั้งแต่ปี 2552 หลังจากถูกดำเนินคดีข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งเป็นกฎหมายที่กดขี่และทารุณของประเทศไทย

นี่คือบทสัมภาษณ์คุณจักภพเรื่องขบวนการต่อต้านรัฐประหารไทยที่กำลังเบ่งบาน




คุณกล่าวว่ากำลังมีการก่อตั้งกลุ่มต่อต้านคณะเผด็จการทหารไทย ไม่ทราบว่าพอจะเล่ารายละเอียดเรื่องดังกล่าวได้หรือไม่?

สมาชิกกลุ่มพวกเราบางคนเป็น สมาชิกคณะรัฐมนตรี, อดีตสส., แกนนำเสื้อแดง และนักกิจกรรมทางการเมือง เป็นกลุ่มคนที่ไม่เคยคิดจะยอมรับหรือยอมจำนนให้กับคณะรัฐประหารเถื่อนในประเทศไทย และที่มากกว่านั้นคือพวกเขาได้เดินทางออกนอกประเทศไทยแล้ว พวกเราทุกคนจะร่วมมือกันจัดตั้งขบวนการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหาร เพื่อนำพาประชาธิปไตยให้กลับคืนสู่ประเทศไทยโดยเร็วที่สุด ตอนนี้ยังไม่มีการสรุปว่าจะมีชื่อใครบ้าง จะดำเนินการที่ไหน หรือเรื่องเปิดเผยรายชื่อผู้ก่อตั้ง แต่การจัดตั้งองค์กรณ์จะทำให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน ปี 2557 อย่างแน่นอน 

คุณจำมีบทบาทอย่างไรในการเคลื่อนไหวต่อต้านนี้?

ผมจะทำหน้าที่เป็นเลขานุการบริหารของกลุ่ม


คุณจะยอมเจรจากับคณะเผด็จการทหารหรือไม่ หรือคุณมองว่าพวกเขาไม่มีความชอบธรรมโดยสิ้นเชิง?

พวกเขาไม่เพียงแต่ไม่มีความชอบธรรม แต่พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่มิชอบด้วยกฎหมายและเป็นอาชญากร

รูปภาพเจ้าหน้าที่รัฐนิรนาม - จากกองทัพบก, กองทัพอากาศ, กองทัพเรือ, ตำรวจ และอีกมากมายที่ชูสามนิ้วอันเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านรัฐประหาร คุณต้องการจะส่งสารอะไรถึงเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งรู้สึกไม่พอใจกับคณะเผด็จการทหารบ้าง? 

ผมแค่อยากจะบอกว่า เราเห็นพวกคุณ เราได้ยินพวกคุณ และอีกไม่นานเราจะต่อสู้เคียงข้างกับพวกคุณ หัวใจอันกล้าหาญของพวกคุณคือสิ่งที่เรายกย่อง และคืออาวุธอันทรงประสิทธิภาพในการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในประเทศไทย

ตอนนี้คณะเผด็จการทหารกดขี่ข่มเหงประชาชนมากแค่ไร?

คนกลุ่มนี้คือกลุ่มที่ปกครองประเทศอย่างกดขี่มากที่สุดนับตั้งแต่การปกครองแบบเผด็จการกระหายเลือดอย่างรุนแรงภายใต้การนำของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ประชาชนถูกสังหาร ทำร้าย ละเมิด ข่มเหง และคุกคามอย่างไม่เคยมีมาก่อนในความทรงจำปัจจุบัน ผมเชื่อว่ามันเกิดจากการที่พวกเขารู้ว่าพวกเขาผิดพลาดมากแค่ไหน ความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงครั้งนี้ทำให้พวกเขาก่ออาชญากรรมและทำผิดครั้งแล้วครั้งเล่า

คุณคิดว่าอาจจะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นหรือไม่?

ผมเกรงว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ประชาชนไม่เคยต้องการความรุนแรง เราแค่เรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งเท่านั้น อย่างไรก็ตามเราจะรักษาความเป็นระเบียบและความสงบทางสังคมได้อย่างไรเมื่อกลุ่มผู้กดขี่ข่มเหงประชาชนกำลังควบคุมประเทศและละเมิดสิทธิมนุษยชนเกือบจะทุกอย่าง? 

คุณอยากส่งสารอะไรถึงผู้ที่อาจจะใช้ความรุนแรงต่อต้านคณะเผด็จการทหาร?

เราต้องอดทน เรากำลังเผชิญหน้ากับเครื่องจักรสังหาร และโดยธรรมชาติ กลุ่ม/ขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยมักจะด้อยกว่ากลุ่มเครื่องจักรสังหารในการต่อสู้ด้วยวิธีการดังกล่าวอยู่แล้ว พูดง่ายๆเลยคือเราไม่ได้ถูกเตรียมพร้อมมาอย่างดี เราจะต้องเอาแนวความคิดและหลักการนำหน้า เพื่อทำให้โลกเข้าใจสถานการณ์ของเราและความชั่วร้ายของพวกเขา และสงครามนี้อาจจะชนะก่อนที่จะจะมีการเริ่มสู้รบด้วยซ้ำ

คุณมีสารอะไรถึงชุมนุมคนไทยในต่างประเทศที่ต่อต้านรัฐประหารหรือไม่? 

คุณมีเราเป็นเพื่อนร่วมต่อสู้ อย่ารู้สึกโดดเดี่ยวหรือท้อแท้

และอยากพูดอะไรกับผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารบนท้องถนนในกรุงเทพฯ?

เราขอคารวะความกล้าหาญและความรักอันแท้จริงของพวกคุณที่มีต่อประเทศ อย่างไรก็ตาม ได้โปรดดูแลตัวเองและอย่าเอาตัวเข้าเสี่ยงมากจนเกินไป เราต้องการพวกคุณทุกคนในการต่อสู้เพื่อศักศรีดิ์ความเป็นมนุษย์
อันยาวนานในครั้งนี้

คุณมีสารอะไรถึงผู้นำคณะเผด็จการทหาร?

จริงๆแล้วเราไม่ต้องการสู้กับพวกคุณซึ่งเป็นเพียงแค่ทาสรับใช้ อย่างเราก็ตาม พวกคุณกำลังขวางทางและไม่ยอมหลีก เราจึงต้องต่อสู้กับพวกคุณเพื่อจะได้เข้าถึงกลุ่มอาชญากรตัวจริง ซึ่งเป็นกลุ่มชนชั้นอภิสิทธิ์ชนที่ไม่ยอมปล่อยให้ประเทศไทยเติบโต และก้าวไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่ 

No comments:

Post a Comment

Abusive comments won't be published.

Note: only a member of this blog may post a comment.