Sunday 6 July 2014

ข้อกล่าวหาอันฉ้อฉลเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว - คสช.ก่อรัฐประหารเพราะข้าวหายไป 0.009%?

ผนขอเขียนบทความสั้นๆ เพราะเหลือบไปเห็นบทความในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์วันนี้เกี่ยวกับการสอบสวนของคณะเผด็จการทหารไทยกรณีการเก็บรักษาข้าวซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย “การให้ความช่วยเหลือด้านการเงินในโครงการข้าว” บทความที่ชื่อว่า "Officials surveyors in the line of fire" ได้เพ่งความสนใจอย่างชัดเจนไปที่คำขู่ของคณะเผด็จการทหารที่จะปลดคนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับโครงการข้าว หากคนเหล่านั้นอาจมีแววว่าจะไร้ประสิทธิภาพ หรือมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอื่นๆ

แต่สิ่งที่ทำให้ผมสนใจคือบรรทัดสุดท้ายของบทความ....



"ในอยุธยา มีข้าว  200,000 ตัน และมีการตรวจสอบคลังเก็บข้าววันนี้ ไม่มีอะไรผิดปกติ
ในการตรวจสอบคลังเก็บข้าวที่นครศรีธรรมราชพบว่ายังมีข้าวทั้งหมดจำนวน 16,320 ตันเก็บอยู่
ในการตรวจสอบคลังเก็บข้าวที่นครราชสีมาพบว่าจากข้าวจำนวน 9,859 ตัน มี 22 ตันที่หายไป 
จากคลังเก็บข้าวทั้งหมด 125 แห่งในกำแพงเพชร มีเพียงแห่งเดียวที่ได้รับการตรวจสอบ และพบว่าไม่มีข้าวหายไป"

หากเรานับรวมจำนวนข้าวทั้งหมดในโรงเก็บข้าวจากอยุธยา นครศรีธรรมราช และนครราชสีมา ก็จะมากกว่า 226,000 ตันหน่อย หากเราคาดเดาว่าจำนวนน้อยสุดของข้าวที่กำแพงเพชรเท่ากับ 9000 ตัน นั้นหมายความว่าจำนวนข้าวที่ถูกตรวจสอบทั้งหมดคือ 235,000 ตัน

จำนวนข้าวที่หายไปคือ 22 ตัน หากเทียบเป็นเปอร์เซ็นของ 235,000 ตัน แล้วจะเท่ากับ 0.009%.

หรือหากกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ จำนวนข้าวที่หายไปนั้นเล็กน้อยมากจนแทบไม่มีความสำคัญ

และเพราะด้วยจำนวนข้าวที่หายไป 0.009% นี่หรือที่ทำให้คณะเผด็จการก่อรัฐประหารและสร้างความหวาดกลัวในกทม.?

No comments:

Post a Comment

Abusive comments won't be published.

Note: only a member of this blog may post a comment.